รายการบล็อก

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

กบน้อย ผู้น่ารัก

สวัสดีวันจันทร์ที่แสนสดใส วันนี้ก็เหมือนเช่นเคยนะครับ ผม นายอาร์มจะพาทุกท่านไปเรียนรู้ชีวิตสัตว์ที่เราพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน วันนี้ขอเสนอ " กบน้อย ผู้น่ารัก " เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ


ลักษณะทั่วไปของกบนา
กบนาเป็นสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง ประเภทสัตว์เลือดเย็น ที่พัฒนามาจากสัตว์น้ำขณะวัยอ่อน หรือที่เรียก ลูกอ๊อด พัฒนามาเป็นสัตว์ที่อาศัยบนบกที่หายใจด้วยปอด และผิวหนัง และเคลื่อนไหวด้วยการกระโดด ไม่มีการเดิน
กบนา เป็นกบขนาดใหญ่ มีอายุได้มากกว่า 5 ปี มีน้ำหนักได้มากถึง 200-500 กรัม ลำตัวประกอบด้วยส่วนหัวที่มีขนาดใหญ่ เป็นรูปสามเหลี่ยมติดกับลำตัว (กบจะไม่มีคอ) มีนัยน์ตาโปนออกมาเล็กน้อย นัยตาหากกระทบไฟส่องจะมีสีแดง มีรูจมูก 2 รู ใกล้กับริมขอบปาก ก่อนถึงลูกตาและมีหู 2 ข้าง อยู่ถัดจากลูกตาเยื้อลงต่ำกว่าเล็กน้อย หูนี้มีลักษณะเป็นแผ่นค่อนข้างกลมบางๆ
ปากมีขนาดกว้าง ภายในปากมีฟันหยักขนาดเล็ก ไม่แหลมคม ส่วนลิ้นมีลักษณะแบน มีโคนลิ้นอยู่ด้านนอก ส่วนปลายลิ้นจะอยู่ด้านใน ปลายลิ้นเป็นแฉก ลิ้นนี้ใช้สำหรับจับอาหารเข้าปาก ซึ่งยืดหดได้อย่างรวดเร็ว  ผิวหนังมีลักษณะอ่อนนุ่ม และชื้นอยู่เสมอ ผิวหนังส่วนบนบริเวณหัว หลัง และขาด้านบนมีสีดำ สีน้ำตาลปนดำ หรือสีขาวขุน และมีจุดประสีทำกระจายทั่ว ทั้งนี้ สีลำตัวจะเปลี่ยนตามลักษณะของน้ำ และสภาพแวดล้อมที่อาศัย ส่วนผิวหนังใต้คาง หน้าท้อง และขาด้านหน้า รวมถึงฝ่าเท้าจะมีสีขาวตลอด
ขามี 4 ขา แบ่งเป็น 2 คู่ ขาคู่หน้าแต่ละขามี 4 นิ้ว ส่วนขาคู่หลังมี 5 นิ้ว โคนขามีขาดใหญ่กว่าขาคู่หน้า มีความแข็งแรง ใช้สำหรับการกระโดด นิ้วทั้ง 5 นิ้ว มีปลายนิ้วแหลมคม ใช้สำหรับขุดดิน แต่ละนิ้วมีพังพืดเชื่อมติดกันทำให้ว่ายน้ำได้เร็วขึ้น นิ้วด้านนอกจะยาวมากที่สุด และค่อยๆสั้นลงเรื่อยๆตามลำดับจนถึงนิ้วด้านใน
กบมีอวัยวะที่ทำหน้าที่เป็นกล่องเสียง ทำให้กบร้องเสียงดังก้องในช่วงผสมพันธุ์ แต่หากเกิดตกใจจะร้องเสียงแหลม
เพศของกบนา
– กบตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่ากบตัวเมีย หากจับหงายท้องจะเห็นกล่องเสียงใต้คาง 2 อัน โดยจะมีลักษณะเป็นจุดสีดำ จุดนี้จะปุ๋มลง และนูนขึ้นเมื่อกบร้อง
– กบตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ เมื่อจับหงายท้องจะไม่พบกล่องเสียง และหูจะมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้ ประมาณเท่ากับลูกตา
การดำรงชีพของกบนา
แหล่งอาศัย และการแพร่กระจาย
กบนาสามารถพบได้ทุกภาคในประเทศ ในหน้าฝนจะอาศัยตาแหล่งน้ำขังตื้นๆ เช่น ทุ่งนา บ่อเก็บน้ำ โดยกลางวันมักหลบอาศัยอยู่ใต้น้ำหรือใต้กอหญ้า ส่วนเวลากลางคืนจะออกหากิน
อาหาร และการกินอาหาร
กบนาเป็นสัตว์ประเภทกินสัตว์เป็นอาหาร มีอาหารตามธรรมชาติที่สำคัญ คือ ไส้เดือน ปลาขนาดเล็ก แมลงเม่า และแมลงอื่นๆ เป็นต้น
เสียงร้องของกบ
เสียงร้องของกบแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ
1. เสียงร้องตอนผสมพันธุ์ กบนาจะร้องเสียง “อบ” “อบ” เป็นจังหวะ ซึ่งเป็นที่มาของการเรียกชื่อว่า “กบ” เสียงนี้จะใช้เพื่อเรียกหาคู่ผสมพันธุ์ ซึ่งจะได้ยินบ่อยในช่วงต้นฤดูฝน ขณะฝนตกหรืหลังฝนตก เพราะกบจะออกมาบริเวณแหล่งน้ำขังเพื่อผสมพันธุ์ และวางไข่
2. เสียงร้องให้ช่วย หรือได้รับบาดเจ็บ หรือเกิดความกลัว กบนาจะร้อง “แอ้บ” “แอ้บ” เป็นจังหวะ เช่น กบขณะถูกงูกิน กบที่กำลังถูกจับ เป็นต้น
การสืบพันธุ์ และการวางไข่
ตามธรรมชาติ กบนาจะเริ่มผสมพันธุ์ในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนพฤษภาคม-กรกฏาคม หรืออาจเลยไปถึงเดือนสิงหาคม หากพื้นที่แห้งแล้งหรือฝนมาช้า
การผสมพันธุ์ของกบมักเริ่มหลังจากฝนตกแล้ว 1-2 ครั้ง เพราะช่วงนี้จะเริ่มมีแหล่งน้ำขังตามทุ่งนา โดยเมื่อฝนตก และมีแหล่งน้ำขัง กบจะออกจากรูหรือที่หลบอาศัย และกระโดดเข้าหาแหล่งน้ำใหม่ เพราะกบจะไม่เหลือกแหล่งน้ำเก่า เช่น บ่อน้ำ สระน้ำ อาจเนื่องจากกบอาจรู้ว่าแหล่งน้ำเหล่านี้จะมีผู้ล่าที่เป็นปลากินเนื้ออยู่
เมื่อถึงแหล่งน้ำ กบจะส่งเสียงร้องหาคู่ “อบ” “อบ” เป็นจังหวะ และเมื่อพบคู่ กบตัวผู้จะขึ้นขี่ด้านหลังกบตัวเมีย

สวัสดีครับ ขอแนะนำตัวก่อนน่ะครับ

ประวัติย่อ


นาย ณัฐนันท์ นิตยพล
ชื่อเล่น : อาร์ม
วันเกิด : 31 พฤษภาคม 2541
น้ำหนัก/ส่วนสูง : 65kg./175cm.
สีที่ชอบ : ขาว ดำ เทา
กรุ๊ปเลือด : โอ
การศึกษา : กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนตราดสรรเสริญวิทยาคม จังหวัดตราด
คติประจำใจ : อย่าหยุดที่จะทำ..ถ้ายังมีลมหายใจ..
ติดต่อ : Tel.063-4345356
             LineID.armme_02
             Facebook.Arm Nutthanun
ที่อยู่ : 65 หมู่ 7 ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด 23000
Email : it_mango1@hotmail.com